• ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 น. -16.00 น.

ราชานุสรณ์

   ตึกมหิดล (หลังเดิม) เป็นตึกผู้ป่วยพิเศษ จำนวน 14 ห้อง สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ.1940 (พ.ศ.2483) เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงพระจริยวัตรอันงดงาม เปี่ยมด้วยพระเมตตาห่วงใย และความใส่พระทัยของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (หมอเจ้าฟ้า) ที่มีต่อผู้ป่วยของโรงพยาบาลแมคคอร์มิค

   นายแพทย์เอ็ดวิน ชาร์ลส คอร์ท เป็นผู้คิดริเริ่ม การก่อสร้างตึกมหิดล  ใน ค.ศ.1937 (พ.ศ. 2480) เมื่อความทราบถึงพระบาทสมเด็จ พระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามา ธิบดินทร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรด กระหม่อมพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วน พระองค์ จำนวน 10,000.00 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ให้สร้างตึกมหิดลในโรงพยาบาล แมคคอร์มิค เจ้านายฝ่ายเหนือ พ่อค้า คหบดี ประชาชนและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิค ร่วมกันบริจาคเงินโดยเสด็จพระราชกุศลด้วย

พระฉายาลักษณ์ พระราชทานให้โรงพยาบาลแมคคอร์มิค

แบบแปลน ตึกมหิดล (หลังแรก)

   ตึกมหิดล โรงพยาบาลแมคคอร์มิค เชียงใหม่ เป็นราชานุสรณ์ ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ที่มีแก่ชาวเชียงใหม่ ในครั้งเสด็จมาทรงงานแพทย์ ที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิค เมื่อวันที่ 26 เมษายน ถึงวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2472 ตึกมหิดล หลังปัจจุบันเป็นหลังที่สอง ที่สร้างในปี พ.ศ.2532

   ตึกมหิดลหลังแรก สร้างขึ้นในสมัยนายแพทย์เอ็ดวิน ชาร์ลส คอร์ท เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลแมคคอร์มิค ท่านได้เขียนไว้ในหนังสือ แยงกี้ไทย ถึงการได้มาของการสร้าง ตึกมหิดลว่า “การสร้างตึกผู้ป่วยเพิ่ม เราต้องการห้องพิเศษที่ใหญ่และดีกว่าเดิม. รายได้จากผู้ป่วยห้องพิเศษส่วนหนึ่งจะนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยยากจน เมื่อหลายปีก่อน ผมได้รับเงินบริจาค 3,000 บาท เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยยากจน แต่ด้วยมีสถานการณ์ ต่างๆเกิดขึ้น ทำให้ต้องทิ้งเงินนั้นไว้ธนาคาร เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้ปรากฎว่ามีเงินเพิ่มขึ้นถึง 4,000 บาท เมื่อผมได้มาเยี่ยมบ้านที่อเมริกา และเมื่อได้เดินทางกลับประเทศไทย ในปี ค.ศ.1939 (พ.ศ.2482) ขณะเดินทางกลับนั้นผมได้แวะที่เมืองโลซาน สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเข้าเฝ้า พระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ที่กำลังศึกษาอยู่ที่นั่น พร้อมสมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ ผมได้กราบทูลพระองค์ถึงโครงการสร้างตึกผู้ป่วยพิเศษ ของโรงพยาบาล เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงสมเด็จพระราชบิดา ซึ่งต้องการใช้งบประมาณในการสร้างตึกทั้งหมด 25,000 บาท และทั้งสองพระองค์ได้พระราชทานทรัพย์จำนวน 10,000 บาทให้สำหรับก่อสร้างตึก

 

   เมื่อกลับมาถึงเชียงใหม่ เราได้จัดงานเลี้ยงน้ำชา เราได้เชิญผู้ที่อุดหนุนช่วยเหลือโรงพยาบาลทุกคนมาร่วม ผมได้กล่าวถึงความสำคัญของตึกผู้ป่วยพิเศษและเน้นถึงการที่จะมีรายได้มาพัฒนาในการดูแลผู้ป่วย ผู้ที่ได้รับเชิญมาก็เคยเป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือและบริจาคเงินให้โรงพยาบาลจำนวนมากแล้ว ผมจึงไม่ขอบริจาคเงินอีก แต่อยากขอรับการแนะนำจากแขกที่มาวันนั้น ผู้ที่มาร่วมงานเลี้ยงได้ปรึกษากัน และทุกคนเห็นด้วยกับการสร้างตึกผู้ป่วยใหม่นี้ ในที่สุดมีคนลุกขึ้นพูดว่า “นายแพทย์คอร์ท มีงานเยอะเกินไปที่จะมาหาเงินเพื่อสร้างอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเราอีก ผมขอเสนอให้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อระดมทุน”

 

   ผู้มาร่วมงานทุกคนเห็นด้วย และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อระดมทุน ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คลังจังหวัด นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ หัวหน้าศาล ศัลยแพทย์บำนาญ และนายแพทย์หม่อง ประดิษฐวรรณ ตึกผู้ป่วยพิเศษที่จะสร้าง มีห้องพัก 14 ห้องมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง ในทุกห้องมีเตียงรับผู้ป่วยได้ทั้งผู้ป่วยผ่าตัดและมีเตียงสำหรับญาติผู้ป่วยและแต่ละห้องมีสีแตกต่างกัน เมื่อเปิดตึกผู้ป่วยพิเศษนี้มีหลายคนรอใช้บริการแล้วโรงพยาบาลจึงมีรายได้เพิ่มมากขึ้น”

 

   ตึกมหิดล หลังแรกสร้างเสร็จในปี  ค.ศ.1941 (พ.ศ.2484) ได้มีพิธีเปิด ในวันที่ 31 พฤษภาคม พุทธศักราช 2484 โดยมีพลตรีอาทิตย์ ทิพย์อาภา ผู้แทนพระองค์ ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิด

 

   ต่อมาค.ศ. 1964 (พ.ศ.2507)  นายแพทย์พิพัฒน์ ตรังรัฐพิทย์ เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลแมคคอร์มิค ได้มีการสร้างขยาย ตึกมหิดลเพิ่มเติมห้องพิเศษอีก 14 ห้อง 

 

   ตึกมหิดล ได้เปิดให้บริการเป็นที่พักพิงของผู้ป่วยมาเป็นเวลาที่ยาวนาน จน ค.ศ.1989 (พ.ศ.2532) คณะกรรมการบริหาร ในสมัยที่นายแพทย์จอห์น กุยเยอร์ เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลแมคคอร์มิคเห็นสมควรให้มีการปรับปรุงซ่อมแซมตึกมหิดลให้มีสภาพที่ดีขึ้น เมื่อวิศวกรและสถาปนิก ได้ศึกษาถึงสภาพโครงสร้างอาคารและความเป็นไปได้ในการปรับปรุงตึกแล้วมีความเห็นสอดคล้องกันว่า ควรก่อสร้างตึกใหม่จะให้ประโยชน์มากกว่า จึงได้มีการดำเนินการวางแผนการก่อสร้างตึกมหิดลหลังใหม่ขึ้นทดแทนตึกมหิดลหลังเดิมโดยรักษาเอกลักษณ์ รูปทรงตึกมหิดลหลังเดิมไว้ ซึ่งกรรมการอำนวยการโรงพยาบาล และมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทยมีความเห็นชอบด้วย และได้กราบทูลเกล้าฯ ขอพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถพิตร ซึ่งพระองค์ทรงมีพระบรมราชานุญาต ให้รื้อตึกมหิดลหลังเดิมออกและให้ก่อสร้างตึกมหิดลหลังใหม่ พร้อมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท) ในพระปรมาภิไธยและพระนามาภิไธยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สำหรับก่อสร้างตึกมหิดลหลังใหม่ สมเด็จพระกนิษฐา กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชทรัพย์จำนวน 5,000 บาท (ห้าพันบาท) สำหรับการสร้างตึกมหิดล

 

   สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลป์ยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์  ได้ทรงพระเมตตารับเป็นองค์อุปถัมภ์โครงการก่อสร้างตึกมหิดลหลังใหม่ พร้อมทั้งทรงพระราชทานเงินจาก “ทุนการกุศลสมเด็จย่า” จำนวน 600,000 บาทและจาก “ทุนการกุศล ก.ว.” จำนวน 400,000 บาท (สี่แสนบาท) สมทบเป็นทุนโดยเสด็จพระราชกุศลในการก่อสร้างตึก “มหิดล” อีกทั้งพระองค์ยังทรงพระกรุณาเสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ “ตึกมหิดล” หลังใหม่ เมื่อวันที่ 10 กันยายน คริสตศักราช 1989 (พุทธศักราช 2532)

 

   ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง และด้วยพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลป์ยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทำให้ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการ องค์กร ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ได้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินโดยเสด็จพระราชกุศลสมทบทุนสร้างตึก “มหิดล” ทำให้การก่อสร้างตึกมหิดลสำเร็จได้อย่างรวดเร็วตามวัตถุประสงค์

 

   วันอังคาร ที่ 17 มีนาคม คริสตศักราช 1992 (พุทธศักราช 2535) พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถพิตร เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด ตึกมหิดลโรงพยาบาลแมคคอร์มิค

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้