พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 แห่ง พระบรมราชจักรีวงศ์ เสด็จสืบราชสันตติวงศ์ครองราช สมบัติ ในวันที่ 26 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2468 (คริสต์ศักราช 1925) มีพระราชดำริว่าการคมนาคม ติดต่อระหว่างกรุงเทพฯ กับ มณฑลพายัพ คือ หัวเมือง ฝ่ายเหนือทั้งปวงมีความสะดวกสบายขึ้นแต่ก่อน เพราะมี เส้นทางรถไฟไปมาถึงกันแล้ว เป็นกาลอันสมควรที่จะได้ เสด็จฯ เลียบมณฑลพายัพ เพื่อที่จะได้ทรงรู้จักมักคุ้นกับ ภูมิประเทศ และพสกนิกรทั้งปวง สำหรับเป็นช่องทางที่จะ ได้ทรงทำนุบำรุง บ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น การเสด็จ พระราชดำเนิน ในครั้งนั้นกำหนดในเดือนมกราคม พุทธศักราช 2469 (คริสต์ศักราช 1927) ได้เสด็จฯ ประพาสจังหวัดต่างๆ รายทางไปโดยลำดับ จังหวัดที่ มีความสำคัญมากที่สุด กำหนดการเสด็จฯ ครั้งนั้น คือ จังหวัดเชียงใหม่

  ในวันที่ 28 มกราคม พุทธศักราช 2469 (คริสต์ศักราช 1927) เวลา 11.00 นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน ไปโรงพยาบาลแมคคอร์มิค พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า รำไพพรรณี พระบรมราชินี เมื่อเสด็จฯ ถึงโรงพยาบาล แมคคอร์มิค นายแพทย์เอ็ดวิน ชาร์ลส คอร์ท เฝ้าทูลละออง ธุลีพระบาท และนำเสด็จทอดพระเนตรโรงพยาบาล แมคคอร์มิค มีพระเจ้าพี่ยาเธอกรมหลวง กำแพงเพชรอัครโยธิน

  นายแพทย์ เอ็ดวิน ชาร์ลส คอร์ท ผู้อำนวยการโรงพยาบาล แมคคอร์มิคนำเสด็จ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตรความเป็นอยู่ของผู้ป่วย รวมทั้งเด็กทารก ป่วยด้วยโรคตา ตาดำเป็นฝ้า อาจจะตาบอดได้ รักษาอยู่ ในโรงพยาบาล นายแพทย์คอร์ทจึงกราบบังคมทูลถึง สาเหตุมาจากเด็กขาดสารอาหาร ทั้งนี้เพราะมารดา เลี้ยงลูกด้วยนมกระป๋องซึ่งเป็นหางนมและคนขายนมบอก ว่าใช้เลี้ยงเด็กทารกได้  กราบบังคมทูลขอให้มีพระบรม ราชวินิจฉัย ห้ามจำหน่ายหางนมออกเป็นกฎหมาย

  พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติหางน้ำนม พุทธศักราช 2470 เป็นกฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวัน ที่ 20 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2470 ระบุว่า

  แพทย์ผู้ทรงไว้ซึ่งคุณวุฒิและความสามารถ ได้ลง ความเห็นแล้วว่า หางน้ำนมนั้นเมื่อใช้เลี้ยงทารกก็นำให้ เกิดความมีอาหารไม่พอเลี ้ยงร่างกายและโรคร้ายแรงต่าง ๆ กฎหมายฉบับนี้ ห้ามมิให้ผู้ใดทำหรือนำเข้ามาหรือขาย หางน้ำนมในประเทศสยาม อันเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อ สุขภาพทารก นับว่าเป็นกฎหมายคุ้มครองสุขภาพเด็ก คุ้มครองผู้บริโภค และกำหนดคุณภาพอาหาร ฉบับแรก ของไทย